From: Dusit Dee <dusit_dee@hotmail.com>
Date: 2011/11/24
Subject: การล้างบ้านหลังน้ำท่วมอย่างชาวบ้าน
To:
ฝากส่งต่อสำหรับทุกท่านที่โชคดีได้กลับเข้าบ้านเพื่อล้างสิ่งโสโครกจากอุทกภัยครั้งนี้ ยังมีผู้อพยพหนีน้ำ (Flood refugee) อีกจำนวนมากโชคไม่ดีเหมือนท่าน ซึ่งรวมผู้ส่งต่อคนนี้ด้วย บ้านยังท่วมขังเหม็นเน่าเข้าไม่ได้อยู่เกินเดือนแล้ว ไอ้รัฐบาลและผู้ว่าฯ หัวกระบวย (กรณีของผมจังหวัดนนทบุรี เขตควายแดงครับ) มันยังไม่มีปัญญาจะช่วยอะไรได้เลย สุดท้ายคงเลี่ยงไม่พ้นต้องรวมกำลังชาวบ้านไปรื้อคันน้ำและเปิดประตูน้ำกันเองเสียแล้ว เพราะพวกควาย (ทั้งฝ่าย กทม. กรมชลฯ และข้าราชการควายส่วนท้องถิ่น) มันไม่มีปัญญาและสมองที่จะช่วยชาวบ้านที่ยังเดือดร้อนได้เลย ดูจากข่าวก็จะเห็นความขัดแย้งที่กำลังเลวร้ายลงทุกวัน อย่ามัวแต่หลงไหลได้ปลื้มกับการโกหก เลือกปฏิบัติของทั้งรัฐบาลปูแดงเน่า (เอาอยู่ค่ะ) และเจ้าหน้าที่ กทม. ที่เห็นแก่ตัวและเล่นเกมการเมืองอย่างแสนทุเรศอยู่เลย พวกมันสร้างภาพบวกบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านอีกหลายพันหลายหมื่นครอบครัวที่ยังจมน้ำท่วมขังและเน่าเหม็นอยู่ในขณะนี้ นี่ไง รัฐบาลมาตรฐานเดียวของบิดามัน
DD
From:
Subject: การล้างบ้านหลังน้ำท่วมอย่างชาวบ้าน
> >> หลังน้ำท่วม ก่อนที่จะมีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้าน
> >> สิ่งแรกที่หลายคนหนักใจก็คือ
> >> การ "ล้างบ้าน" ให้พร้อมเพื่อจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างอื่น
> >> ซึ่งมีคำแนะนำมากมายในการ
> >> ล้างบ้าน บางคำแนะนำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็อาจจะลำบากพอควร โดยเฉพาะอย่าง
> >> ยิ่ง "ชาวบ้าน" แบบเราๆที่มิได้มีความรู้หรือมีเงินทุนมกมาย
> >> ดังนั้นจึงขอสรุปอีกแนว
> >> ทางหนึ่งที่จะทำการล้างบ้านแบบชาวบ้านโดยสั้นๆดังนี้ครับผม
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๑ : เข้าไปในบ้านเราโดยการ "ใส่รองเท้า" ห้ามเดินเท้าเปล่า
> >> เพราะอาจจะมี
> >> เศษแก้วหรือเศษขยะที่อาจจะทำให้เราเกิดความบาดเจ็บได้
> >> ต้องใส่รองเท้าที่แน่ใจ
> >> ว่า "ไม่ลื่น" เพราะพื้นจะลื่นมากจากตะไคร่และดินโคลน
> >> มีปรากฏว่าเกิดการหกล้มและ
> >> บาดเจ็บแล้ว และมี "ผ้าปิดปาก-จมูก" ปิดไปด้วยเพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ
> >> (รวมถึง
> >> เหล่าเชื้อราในอากาศด้วย) ทั้งนี้"ห้ามเข้าไปคนเดียว"
> >> เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุหรือ
> >> อันตรายใดๆ จะๆได้มีการช่วยเหลือกันได้ และจะต้องมี "ท่อนไม้"
> >> หรือวัสดุคล้ายกัน
> >> ติดมือไปด้วย เพื่อใช้ในการพยุงตัว หรือเขี่ย
> >> หรือต่อสู้กับบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมี
> >> เครื่องมือสื่อสารเช่นโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วยก็ยิ่งดี
> >> (เตรียมหมายเลขที่เราจะ
> >> สามารถติดต่อได้สะดวกแบบกดทีเดียวโดยไม่ต้องหาหมายเลข ก็จะดีมากครับ)
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๒ : ต้องระวังเรื่อง "ไฟฟ้า" ที่อาจจะมีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่
> >> แต่ยามน้ำลดแล้ว
> >> อันตรายจากกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในน้ำท่วมอาจจะน้อยลง แต่ก็ต้องระวังตามส่วนของ
> >> อาคารที่ชื้นๆ อาจะมีกระแสฟ้ารั่วอยู่ก็ได้ ทำการ "ปิดคัทเอาท์
> >> หรือวงจรไฟฟ้าหลัก"
> >> ของบ้านเสียก่อน (แปลว่าต้องเข้าไปในบ้านตอนกลางวันนะครับ) อาจจะใช้ท่อนไม้
> >> แห้งๆดันปิดวงจรไฟฟ้าหลักก็ได้ในกรณีที่ที่วงจรไฟฟ้ามีไฟฟ้ารั่วอยู่
> >> แต่หากวงจรไฟฟ้า
> >> หลักถูกปิดเอาไว้แล้ว ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๓ : ต้องสำรวจดูอย่างดีว่า มี "งูเงี้ยวเขี้ยวขอ" หรือสัตว์ต่างๆหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเราหรือไม่ โดยการส่งเสียงดังหรือใช้ท่อนไม้ที่ติดมือไปเคาะตามจุดต่างๆ
> >> เช่นใต้บันได หลังเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งในฝ้าเพดาน เป็นต้น
> >> หากระบบประปา
> >> ของเรายังใช้ได้ ก็ต่อสายยางเพื่อทำการ "ฉีดน้ำ" เข้าตามซอกต่างๆ
> >> (และเพื่อไล่
> >> ความสกปรกด้วย) หากสัตว์ร้ายเขาปรากฏตัว ก็ต้องหาวิธีดำเนินการตามสมควร
> >> โดยมี
> >> เจ้าท่อนไม้ที่เราติดตัวไปป้องกันตัว หากเขาหนีไปที่อื่น
> >> กรุณาสังเกตดูด้วยครับว่าเขา
> >> หนีไปทางไหน จะได้ไม่ต้องไปเจอเขาอีก
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๔ : ทำความสะอาดบ้านตามวิธีที่เราถนัด โดยการ "กวาดขยะ" ออก
> >> จากบริเวณต่างๆให้หมด (พยายามรวมขยะเอาไว้เป็นจุดๆ เพื่อนำไปทิ้งอย่างเป็น
> >> ระบบ) อย่าใจร้อน ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ แล้วก็เอา "น้ำผงซักฟอก" ทำการล้าง
> >> (และขัด)
> >> ส่วนต่างๆให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นวิธีการที่ง่ายและประหยัดที่สุด
> >> แม้จะ
> >> สะอาดไม่ครบ 100% แต่เภสัชกรท่านบอกว่า เพียงพอแล้วหากทำความสะอาดอย่าง
> >> ตั้งใจ เหล่าตะไคร่และเชื้อราจะหายไป จนเราไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพพื้นฐาน
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๕ : ทำข้อ ๔ ไปเรื่อยๆ ช่วยๆกันทำ แล้วก็ทิ้งให้แห้ง
> >> แล้วก็เก็บกวาดเช็ดถู
> >> ต่อไปอีกสัก ๑-๒ ครั้ง อย่าอารมณ์เสีย อย่าท้อถอย ทำไปเรื่อยๆ
> >> อะไรที่ไม่แน่ใจว่าจะ
> >> เก็บหรือจะทิ้ง ก็วางเรียงไว้นอกบ้านก่อนก็ได้
> >> (แต่อย่าเพิ่งสนใจมากในตอนแรกครับ)
> >> ไม่นานเราก็จะได้บ้านที่สะอาดกลับคืนมา รายละเอียดเพิ่มเติม หาอ่านได้ใน
> >> "บัญญัติ 21 ประการ ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม" ครับผม
> >>
> >> ขอพลังจงมีแด่พวกเราทุกๆคนครับ โชคร้ายกำลังจะผ่านไป เราต้อง สู้ สู้ สู้
> >> เด้ออ
> >> โชคดีนะครับผม
> >>
> >>
> >> ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์
> >> พฤศจิกายน ๒๕๕๔
Date: 2011/11/24
Subject: การล้างบ้านหลังน้ำท่วมอย่างชาวบ้าน
To:
ฝากส่งต่อสำหรับทุกท่านที่โชคดีได้กลับเข้าบ้านเพื่อล้างสิ่งโสโครกจากอุทกภัยครั้งนี้ ยังมีผู้อพยพหนีน้ำ (Flood refugee) อีกจำนวนมากโชคไม่ดีเหมือนท่าน ซึ่งรวมผู้ส่งต่อคนนี้ด้วย บ้านยังท่วมขังเหม็นเน่าเข้าไม่ได้อยู่เกินเดือนแล้ว ไอ้รัฐบาลและผู้ว่าฯ หัวกระบวย (กรณีของผมจังหวัดนนทบุรี เขตควายแดงครับ) มันยังไม่มีปัญญาจะช่วยอะไรได้เลย สุดท้ายคงเลี่ยงไม่พ้นต้องรวมกำลังชาวบ้านไปรื้อคันน้ำและเปิดประตูน้ำกันเองเสียแล้ว เพราะพวกควาย (ทั้งฝ่าย กทม. กรมชลฯ และข้าราชการควายส่วนท้องถิ่น) มันไม่มีปัญญาและสมองที่จะช่วยชาวบ้านที่ยังเดือดร้อนได้เลย ดูจากข่าวก็จะเห็นความขัดแย้งที่กำลังเลวร้ายลงทุกวัน อย่ามัวแต่หลงไหลได้ปลื้มกับการโกหก เลือกปฏิบัติของทั้งรัฐบาลปูแดงเน่า (เอาอยู่ค่ะ) และเจ้าหน้าที่ กทม. ที่เห็นแก่ตัวและเล่นเกมการเมืองอย่างแสนทุเรศอยู่เลย พวกมันสร้างภาพบวกบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านอีกหลายพันหลายหมื่นครอบครัวที่ยังจมน้ำท่วมขังและเน่าเหม็นอยู่ในขณะนี้ นี่ไง รัฐบาลมาตรฐานเดียวของบิดามัน
DD
From:
Subject: การล้างบ้านหลังน้ำท่วมอย่างชาวบ้าน
> >> หลังน้ำท่วม ก่อนที่จะมีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้าน
> >> สิ่งแรกที่หลายคนหนักใจก็คือ
> >> การ "ล้างบ้าน" ให้พร้อมเพื่อจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างอื่น
> >> ซึ่งมีคำแนะนำมากมายในการ
> >> ล้างบ้าน บางคำแนะนำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็อาจจะลำบากพอควร โดยเฉพาะอย่าง
> >> ยิ่ง "ชาวบ้าน" แบบเราๆที่มิได้มีความรู้หรือมีเงินทุนมกมาย
> >> ดังนั้นจึงขอสรุปอีกแนว
> >> ทางหนึ่งที่จะทำการล้างบ้านแบบชาวบ้านโดยสั้นๆดังนี้ครับผม
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๑ : เข้าไปในบ้านเราโดยการ "ใส่รองเท้า" ห้ามเดินเท้าเปล่า
> >> เพราะอาจจะมี
> >> เศษแก้วหรือเศษขยะที่อาจจะทำให้เราเกิดความบาดเจ็บได้
> >> ต้องใส่รองเท้าที่แน่ใจ
> >> ว่า "ไม่ลื่น" เพราะพื้นจะลื่นมากจากตะไคร่และดินโคลน
> >> มีปรากฏว่าเกิดการหกล้มและ
> >> บาดเจ็บแล้ว และมี "ผ้าปิดปาก-จมูก" ปิดไปด้วยเพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ
> >> (รวมถึง
> >> เหล่าเชื้อราในอากาศด้วย) ทั้งนี้"ห้ามเข้าไปคนเดียว"
> >> เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุหรือ
> >> อันตรายใดๆ จะๆได้มีการช่วยเหลือกันได้ และจะต้องมี "ท่อนไม้"
> >> หรือวัสดุคล้ายกัน
> >> ติดมือไปด้วย เพื่อใช้ในการพยุงตัว หรือเขี่ย
> >> หรือต่อสู้กับบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมี
> >> เครื่องมือสื่อสารเช่นโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วยก็ยิ่งดี
> >> (เตรียมหมายเลขที่เราจะ
> >> สามารถติดต่อได้สะดวกแบบกดทีเดียวโดยไม่ต้องหาหมายเลข ก็จะดีมากครับ)
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๒ : ต้องระวังเรื่อง "ไฟฟ้า" ที่อาจจะมีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่
> >> แต่ยามน้ำลดแล้ว
> >> อันตรายจากกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในน้ำท่วมอาจจะน้อยลง แต่ก็ต้องระวังตามส่วนของ
> >> อาคารที่ชื้นๆ อาจะมีกระแสฟ้ารั่วอยู่ก็ได้ ทำการ "ปิดคัทเอาท์
> >> หรือวงจรไฟฟ้าหลัก"
> >> ของบ้านเสียก่อน (แปลว่าต้องเข้าไปในบ้านตอนกลางวันนะครับ) อาจจะใช้ท่อนไม้
> >> แห้งๆดันปิดวงจรไฟฟ้าหลักก็ได้ในกรณีที่ที่วงจรไฟฟ้ามีไฟฟ้ารั่วอยู่
> >> แต่หากวงจรไฟฟ้า
> >> หลักถูกปิดเอาไว้แล้ว ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๓ : ต้องสำรวจดูอย่างดีว่า มี "งูเงี้ยวเขี้ยวขอ" หรือสัตว์ต่างๆหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเราหรือไม่ โดยการส่งเสียงดังหรือใช้ท่อนไม้ที่ติดมือไปเคาะตามจุดต่างๆ
> >> เช่นใต้บันได หลังเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งในฝ้าเพดาน เป็นต้น
> >> หากระบบประปา
> >> ของเรายังใช้ได้ ก็ต่อสายยางเพื่อทำการ "ฉีดน้ำ" เข้าตามซอกต่างๆ
> >> (และเพื่อไล่
> >> ความสกปรกด้วย) หากสัตว์ร้ายเขาปรากฏตัว ก็ต้องหาวิธีดำเนินการตามสมควร
> >> โดยมี
> >> เจ้าท่อนไม้ที่เราติดตัวไปป้องกันตัว หากเขาหนีไปที่อื่น
> >> กรุณาสังเกตดูด้วยครับว่าเขา
> >> หนีไปทางไหน จะได้ไม่ต้องไปเจอเขาอีก
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๔ : ทำความสะอาดบ้านตามวิธีที่เราถนัด โดยการ "กวาดขยะ" ออก
> >> จากบริเวณต่างๆให้หมด (พยายามรวมขยะเอาไว้เป็นจุดๆ เพื่อนำไปทิ้งอย่างเป็น
> >> ระบบ) อย่าใจร้อน ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ แล้วก็เอา "น้ำผงซักฟอก" ทำการล้าง
> >> (และขัด)
> >> ส่วนต่างๆให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นวิธีการที่ง่ายและประหยัดที่สุด
> >> แม้จะ
> >> สะอาดไม่ครบ 100% แต่เภสัชกรท่านบอกว่า เพียงพอแล้วหากทำความสะอาดอย่าง
> >> ตั้งใจ เหล่าตะไคร่และเชื้อราจะหายไป จนเราไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพพื้นฐาน
> >>
> >> ขั้นตอนที่ ๕ : ทำข้อ ๔ ไปเรื่อยๆ ช่วยๆกันทำ แล้วก็ทิ้งให้แห้ง
> >> แล้วก็เก็บกวาดเช็ดถู
> >> ต่อไปอีกสัก ๑-๒ ครั้ง อย่าอารมณ์เสีย อย่าท้อถอย ทำไปเรื่อยๆ
> >> อะไรที่ไม่แน่ใจว่าจะ
> >> เก็บหรือจะทิ้ง ก็วางเรียงไว้นอกบ้านก่อนก็ได้
> >> (แต่อย่าเพิ่งสนใจมากในตอนแรกครับ)
> >> ไม่นานเราก็จะได้บ้านที่สะอาดกลับคืนมา รายละเอียดเพิ่มเติม หาอ่านได้ใน
> >> "บัญญัติ 21 ประการ ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม" ครับผม
> >>
> >> ขอพลังจงมีแด่พวกเราทุกๆคนครับ โชคร้ายกำลังจะผ่านไป เราต้อง สู้ สู้ สู้
> >> เด้ออ
> >> โชคดีนะครับผม
> >>
> >>
> >> ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์
> >> พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น